10 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ของเลโอนาร์โด ดาวินชี
เลโอนาร์โด ดาวินชี เกิดที่เมืองวินชี ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 1995 (ค.ศ. 1452) หรือเมื่อ 554 ปีก่อน เขาเป็นทั้งจิตรกร นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักประดิษฐ์ นักสังเกตธรรมชาติ มีผลงานสร้างความตื่นตะลึงให้กับคนยุคแล้วยุคเล่า อันที่จริงแล้ว ดาวินชี มีผลงานสิ่งประดิษฐ์มากกว่า 100 ผลงาน และนี่คือผลงานที่โดดเด่นที่สุดรองจากผลงานทางศิลป์
อันดับ 10 เทคนิคการเขียนกลับทาง (Mirror Writing)
อันดับ 10 เทคนิคการเขียนกลับทาง (Mirror Writing)
เทคนิคการเขียนตัวอักษรย้อนกลับทิศทางจากตัวหลังไปตัวหน้าของดาวินชี สร้างข้อถกเถียงให้กับนักวิชาการจนถึงวันนี้ว่า เป็นวิธีการเข้ารหัสแบบโบราณที่เขาสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นๆ ลอบอ่านและขโมยข้อมูลในบันทึกส่วนตัว หรือจริงๆแล้วเป็นเพียงเพราะดาวินชี 'ถนัดซ้าย' จึงคิดวิธีเขียนกลับหลังแบบนี้เพื่อไม่ให้น้ำหมึกเปื้อนมือกันแน่
อันดับ 9 ชุดดำน้ำ (Scuba Gear)
อันดับ 9 ชุดดำน้ำ (Scuba Gear)
ผลพวงจากการที่ดาวินชีหลงใหลในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล เป็นที่มาของการออกแบบอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการดำน้ำขึ้นมาหลายชนิด ในจำนวนนี้รวมถึงเรือดำน้ำและชุดประดาน้ำที่ตัวชุดทำจากหนังและเชื่อมต่อกับท่อและโลหะทรงกลม ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนสนอร์เกิ้ลหรือหน้ากากดำน้ำยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นชุดดำน้ำชุดนี้ยังมีถุงเก็บปัสสาวะด้วย แสดงให้เห็นถึงความรอบคอมในการออกแบบ
อันดับ 8 สะพานชักรอก (The Revolving Bridge)
อันดับ 8 สะพานชักรอก (The Revolving Bridge)
ดาวินชีออกแบบสะพานสำหรับใช้ในการเคลื่อนพลผ่านพื้นที่ในสมรภูมิทุรกันดารต่างๆ เช่น การยกพลข้ามแม่น้ำ ตัวสะพานดังกล่าวมีระบบชักรอกและสายพาน ทำให้ทหารกางออกมาใช้งานและชักรอกเก็บได้อย่างรวดเร็ว เป็นหนึ่งในเครื่องจักรทุ่นแรงอีกหลายชนิดจากการคิดค้นของดาวินชี
อันดับ 7 เครื่องร่อน (The Winged Gilder)
อันดับ 7 เครื่องร่อน (The Winged Gilder)
ภายในคลังจินตนาการอันไม่มีที่สิ้นสุดของดาวินชีนั้นมี 'เครื่องกลบินได้' รวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก รวมถึง 'เครื่องร่อน' ซึ่งตรงบริเวณปีกมีแผ่นบังคับเปิด-ปิดควบคุมทิศทางได้หรือที่ปัจจุบันเรียก ว่า 'แฟลบ' และในตัวเครื่องร่อนยังมีเกียร์ควบคุมความเร็วที่นั่งติดอยู่ด้วย
อันดับ 6 ปืนใหญ่ 3 ลำกล้อง (The Triple-Barreled Cannon)
อันดับ 6 ปืนใหญ่ 3 ลำกล้อง (The Triple-Barreled Cannon)
แม้ประวัติของดาวินชีจะเกลียดสงคราม มีลักษณะเป็น 'นักคิด' มากกว่า 'นักรบ' แต่ในใจของเขาก็ยังฝันถึงการคิดค้นงานด้านวิศวกรรม หนทางเดียวที่จะทำเช่นนั้นได้ คือ การออกแบบอาวุธสงครามเพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจมากที่สุด หนึ่งในผลงานการออกแบบอาวุธ ได้แก่ ปืนใหญ่ที่มีอานุภาพที่มีลำกล้องติดกันถึง 3 กระบอก เหมือนกับที่เห็นในภาพ
อันดับ 5 สกรูบิน (The Aerial Screw)
อันดับ 5 สกรูบิน (The Aerial Screw)
ถึงแม้นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะลงความเห็นตรงกันว่ามันไม่มีทางที่เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้จะบินขึ้นจากพื้นได้ แต่ 'เฮลิคอปเตอร์' ในแบบของดาวินชีก็ยังคงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขา เครื่องกลที่ชวนให้สงสัยนี้ดูเหมือนว่าจะถูกออกแบบให้ทำงานโดยใช้คนสี่คนมาหมุนมันพร้อมกัน รวมทั้งน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากกังหันลมซึ่งเป็นของเล่นที่นิยมกันในสมัยนั้นด้วย
อันดับ 4 เมืองในอุดมคติ (The Ideal City)
อันดับ 4 เมืองในอุดมคติ (The Ideal City)
ยุคสมัยหนึ่ง ดาวินชีอาศัยอยู่ในนครมิลานท่ามกลางสภาพการแพร่ระบาดของโรคร้าย เขาจึงคิดออกแบบผังเมืองใหม่ให้มีความสะอาด เป็นระเบียบ ถูกสุขอนามัย อาทิ เขียนแบบให้เมืองในอุดมคติเมื่อหลายร้อยปีก่อนแห่งนี้มี 'ระบบระบายอากาศ' เพื่อดึงอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเมือง และมีระบบระบายน้ำเสีย
อันดับ 3 รถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (The Self-Propelled Car)
อันดับ 3 รถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (The Self-Propelled Car)
แน่นอนว่ารถที่ดาวินชีพยายามสร้างไม่สามารถวิ่งเร็วหลายร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือนรถเฟอร์รารี่ แต่ถ้าคิดว่าเป็นรถที่อยู่ในสมัยนั้นก็ต้องจัดว่าไฮเทคล้ำยุคสุดๆ เพราะรถที่มีตัวถังทำจากไม้คันนี้สามารถแล่นขับเคลื่อนด้วยตัวมันเอง ด้วยแรงส่งและการทำงานอย่างสัมพันธ์กันระหว่างสปริงและเกียร์ที่ล้อ เมื่อปี 2547 นักวิทยาศาสตร์ประจำพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ทดลองสร้างแบบจำลองรถรุ่นนี้ตามแบบที่ดาวินชีร่างเอาไว้และพบว่าวิ่งได้จริง
อันดับ 2 แนวคิดเกี่ยวกับธรณีวิทยา (Geologic Time)
นักคิดส่วนมากในสมัยของดาวินชีนั้นมีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ว่าซากฟอสซิลของพวกหอย ปู ปลาหมึกต่างๆที่พบบนยอดเขานั้นเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากการเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่ดาวินชีกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาตั้งข้อสงสัยไว้ (ซึ่งก็ถูกเสียด้วย) ว่าภูเขาเหล่านั้นจะต้องเคยเป็นชายฝั่งมาก่อน ก่อนที่จะค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้นๆ ในเวลาต่อมา
อันดับ 1 วิทรูเวียนแมน (The Vitruvian Man)
เชื่อว่าชาวโลกน้อยคนนักที่จะไม่เคยผ่านตากับภาพวาดของบุรุษผู้นี้ นั่นก็คือภาพ 'วิทรูเวียนแมน' ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ดาวินชีศึกษาสัดส่วนกายวิภาคมนุษย์อย่างละเอียด จนพิสูจน์ทฤษฎีบทของ 'วิทรูเวียน' ผู้เป็นสถาปนิกยุคจักรวรรดิโรมันได้สำเร็จว่า 'ร่างคนยืนกางแขนขาจะตกเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่สมบูรณ์เสมอ' และนับเป็นการเปิดประตูสู่ศาสตร์กายวิภาคครั้งสำคัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น