“อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม
เบลล์”
(Alexander Graham Bell) นับเป็นตัวอย่างของนักวิทยาศาสตร์ที่บางครั้งสิ่งที่เขากำลังคิดประดิษฐ์นั้นไม่ประสบผลสำเร็จ
กลับไปประสบผลสำเร็จในอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งมีประโยชน์และสร้างชื่อเสียงให้มากกว่า
แรกเริ่มเดิมทีคิดเครื่องมือที่จะทำให้คนใบ้ได้ยินไม่สำเร็จ
แต่คิดโทรศัพท์เป็นผลสำเร็จ
เป็นต้น
เกิดที่เมืองเอดินเบิร์ก
เมื่อวันที่
3 มีนาคม ค.ศ.
1847 บิดาเป็นนักวิทยาศาสตร์
ส่วนมารดาเป็นคนหูพิการ
จึงเรียนรู้และทำความเข้าใจซึ่งกันและกันด้วยภาษาใบ้
โดยบิดาสอนให้สังเกตริมฝีปากของมารดาเวลาพูด
หูของเขายังสามารถแยกแยะความแตกต่างของเสียงที่ใกล้เคียงกันได้อีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่ใช้ยืนยันในเรื่องนี้ก็คือ
เขาเล่นเปียโนได้ดีเยี่ยมโดยไม่ต้องอ่านโน้ต
และเมื่อเขาสังเกตพบว่าเสียงเพลงเกิดจากการสั่นสะเทือน
ก็จึงคิดว่าทำไมเสียงจะเคลื่อนที่ไปบนเส้นลวดบ้างไม่ได้
และคงจะฟังได้ยินในระยะใกล้ได้เป็นแน่
ด้วยความคิดนี้เขาจึงสร้างเครื่องโทรศัพท์ขึ้นใช้เป็นเครื่องแรก
โดยสร้างตัวส่งผ่านซึ่งมีเครื่องพูดลักษณะคล้ายเขาสัตว์เป็นตัวนำคลื่นเสียงไปยังโลหะแผ่นแบนๆ
ซึ่งมีแม่เหล็กอยู่ใกล้และเส้นลวดขดรอบแม่เหล็กนั้น
เมื่อคลื่นเสียงจากคำพูดของเขาทำให้โลหะสั่นสะเทือน
ความสั่นสะเทือนทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นในเส้นลวดที่อยู่รอบแม่เหล็กแล้วไหลผ่านเส้นลวดอีกเส้นหนึ่งซึ่งต่อไปยังเครื่องรับ
ที่เครื่องรับก็จะมีเครื่องคล้ายๆ
กัน
ทำหน้าที่เปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้กลับไปยังเครื่องเสียงอีกที
เครื่องโทรศัพท์จริงเครื่องแรกได้ใช้ในปี
ค.ศ.
1876 โดยเบลล์และวัตสันเพื่อนของเขาที่ทำการทดลองร่วมกัน
โดยทั้งคู่อยู่ห่างกัน
3 กิโลเมตร สิ่งประดิษฐ์ของเบลล์ทำให้เขาร่ำรวย
แต่ในไม่ช้าเขาก็หันกลับไปทำงานให้กับคนหูหนวกอีก
เพราะเขาคิดว่าสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด
ในปี ค.ศ.
1882 เบลล์แต่งงานกับ “เมเปิล
ฮับบาร์ด” ศิษย์หูหนวกของเขา
ทำให้เขากระตือรือร้นที่จะประดิษฐ์สิ่งเหล่านี้มากยิ่งขึ้น
แต่เขาไม่สามารถประดิษฐ์เครื่องช่วยในการฟังให้คนที่หูหนวกอย่างสนิทได้
แต่ก็สามารถช่วยเหลือผู้ที่แก้วหูเสียหายได้ไม่มากนักให้ได้ยินได้
อเล็กซานเดอร์
เกรแฮม
เบลล์
ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขจนถึงแก่กรรมเมื่อวันที่
2 สิงหาคม ปี
ค.ศ.
1922
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น