ชายคนนีชื่อ ดิมิทรี
อีวาโนวิช
เมนเดเลเยฟ
(Dmitri
Ivanovich Mendeleev) และเขาเป็นผู้มีส่วนในการสร้างสรรค์
ตารางธาตุ
(Periodic
Table of Elements) มากกว่าคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเขาควรจะได้โด่งดังมากกว่า
15 นาที แต่วันนี้เราจะให้เขาแค่
3 นาทีครับ
เมนเดเลเยฟเกิดในไซบีเรีย
เมื่อปี
1834 ในครอบครัวที่มีลูก
11-17 คน ไม่มีใครรู้แน่ชัดครับ
ตอนเป็นวัยรุ่น
เขาเกือบต้องตายด้วยวัณโรค
(tuberculosis) ด้วย
แต่โชคดีสำหรับพวกเราที่เขารอด
และโชคดีที่แม่ของเขาทุ่มเทความเชื่อมั่นทั้งหมดไปที่ลูกชายคนนี้
และส่งเขาไปเรียนเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
หลังจากนั้นเขาก็ได้เป็นศาสตราจารย์ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วย
ดุษฎีนิพนธ์ของเขามีหัวข้อว่า
“ส่วนผสมระหว่างน้ำและแอลกอฮอล์”
(The Combination of Water and Alcohol) ผมรู้ว่ามันฟังดูน่าเบื่อ
แต่มันจะมีประโยชน์ภายหลังครับ
ระหว่างปี
1868-1870 เป็นช่วงที่เมนเดเลเยฟเริ่มสร้างสรรค์ผลงานชื่อ
“หลักการวิชาเคมี”
(The Principles of Chemistry) นั่นเป็นตอนที่เขาคิดค้นแนวคิดทรงอิทธิพลของเขาขึ้นมา
นั่นคือ
“กฎตารางธาตุ”
(Periodic Law) ทฤษฎีนี้บอกไว้ว่า ถ้าคุณจัดธาตุที่มีคุณสมบัติคล้ายกันไว้กลุ่มเดียวกันและเรียงตามน้ำหนักอะตอม
(atomic
weight) ธาตุต่างๆจะเรียงตัวเป็นช่วงๆ
เขาอธิบายเรื่องนี้ไว้ในตารางธาตุเริ่มแรกที่ปฏิวัติวงการของเขา
สมัยนั้นมีธาตุที่ถูกค้นพบแล้วประมาณ
60 ธาตุ และมันหน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ
ไม่ได้เหมือนตารางที่อยู่บนกำแพงห้องเรียนเคมีของคุณเท่าไหร่
แต่ถ้าคุณลองเอียงมัน
90 องศา ก็จะเริ่มเป็นเป็นจุดเริ่มต้นของตารางธาตุในปัจจุบัน
หนึ่งในความมหัศจรรย์ของการค้นพบของเมนเดเลเยฟก็คือ
เขาค้นพบสิ่งนี้ได้
25 ปีก่อนที่เราจะค้นพบอิเล็กตรอน สมัยนั้นทุกๆคนในโลกวิทยาศาสตร์คิดว่า
อะตอมเป็นอนุภาคพื้นฐานที่สุด
ดังนั้นวิธีกำหนดน้ำหนักของธาตุก็คือ
นำธาตุนั้นมาเทียบกับธาตุที่มีน้ำหนักเบาที่สุด
ซึ่งก็คือไฮโดรเจน
ซึ่งจนปัจจุบันก็ยังเป็นไฮโดรเจนอยู่
นักวิทยาศาสตร์เพิ่งมาค้นพบวิธีบอกน้ำหนักธาตุได้เที่ยงตรงมากขึ้นในภายหลัง
โดยการวัดน้ำหนักของโปรตอน
นิวตรอน
และอิเล็กตรอนภายในอะตอม
อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับเมนเดเลเยฟ
นอกจากที่เขาจัดเรียงธาตุตามน้ำหนักอะตอม
ซึ่งใครๆก็คิดได้แล้ว
เขายังพบว่าตารางของเขามีช่องว่างอยู่
และเขาตั้งทฤษฎีไว้ว่า
ธาตุเหล่านั้นจะต้องถูกค้นพบในอนาคต
และเขายังสามารถคาดเดาคุณสมบัติของธาตุที่ยังไม่ถูกค้นพบเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำด้วย
จาก
10 ธาตุที่เมนเดเลเยฟคาดเดาไว้ในตารางธาตุของเขา
7 ธาตุได้ถูกค้นพบในที่สุด
ความสำเร็จของเขาทำให้เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการ
และรวมถึงมีอิทธิพลแง่ชีวิตส่วนตัวเขาด้วย
ในช่วงปี
1880 เมนเดเลเยฟเกิดไปคลั่งไคล้เพื่อนสนิทของหลานสาวเข้า
และขู่ว่าเขาจะฆ่าตัวตายถ้าเธอไม่ยอมแต่งงานด้วย
ปัญหาก็คือเขาแต่งงานมีภรรยาอยู่แล้ว
เขาก็เลยหย่าขาดกับภรรยาและแต่งงานกับเพื่อนของหลานสาวแทน
ซึ่งตามความเชื่อของโบสถ์รัสเซียออร์โธดอกซ์
นี่เป็นการสมรสซ้อน
(bigamy)
ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ความผิดทางศีลธรรมของเขา
แต่พูดกันว่า
พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์กล่าวว่า
“ถึงเมนเดเลเยฟจะมีภรรยาสองคน
แต่เรามีเมนเดเลเยฟแค่คนเดียว”
ดังนั้น เมื่อพระเจ้าซาร์เข้าข้าง
เขาจึงได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการชั่งและการตวงวัด
ซึ่งหนึ่งในหน้าที่ของเขาก็คือการวางมาตรฐานให้การผลิตเหล้าวอดก้า
เพราะเขานี่เอง
วอดก้าของรัสเซียจึงมีปริมาณแอลกอฮอล์
40 เปอร์เซ็นต์จนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาเรื่องปิโตรเลียมและช่วยก่อตั้งโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของรัสเซียด้วย
สินค้าส่งออกเพียงสองอย่างของรัสเซียที่ชายคนนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยพัฒนา
ก็คงจะมีแค่
คาเวียร์
และ
เพลงโพลก้าแบบฮิปฮอป
ในปี
1906 เมนเดเลเยฟได้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลโนเบล
สำหรับทฤษฎีตารางธาตุของเขา
แต่เขากลับไปทำให้นักเคมีทรงอิทธิพลชาวสวีเดนคนหนึ่งโกรธเข้า
โดยไปวิพากษ์วิจารณ์ทฤษฎีของนักเคมีคนนั้น
ก็เลยถูกล๊อบบี้และไม่ได้รับรางวัล
เมนเดเลเยฟเสียชีวิตในปีต่อมาด้วยโรคไข้หวัดใหญ่
เขาเป็นเลิศทั้งด้านเกี่ยวกับธาตุ
ปิโตรเลียม
แอลกอฮอล์
และการสมรสซ้อนด้วย
ถึงเขาจะไม่ได้รับรางวัลโนเบล
แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับการยกย่องทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กว่า
นั่นคือ
มีธาตุที่ถูกตั้งชื่อตามเขา
ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่สังเคราะห์ได้และยังมีกัมมันตรังสีสูงด้วย
นั่นคือ
ธาตุเมนเดเลเวียม
(mendelevium)
ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น