หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

Vichy

  เมืองวิชชี่ (Vichy) ตั้งอยู่ในแค้วน Auvergne ซึ่งตั้งอยุ่ตรงใจกลางประเทศฝรั่งเศส ถ้าพูดถึงวิชชี่นั้นก็คุ้นหูชาวไทยอยุ่ไม่น้อย  ซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินรือรู้จักกับผลิตภัณธ์เวชสำอางค์แบรนด์ดังจากฝรั่งเศสนามว่า Vichy นั่นเอง  เวชสำอางค์แบรนด์วิชชี่นี้มีต้นกำเนิดมาจากการใช้น้ำแร่ธรรมชาติที่เมืองวิชชี่มาเป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมในผลิตภัณธ์   เมืองวิชชี่ (Vichy)เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของชาวยุโรปหรือชาวอเมริกันก็เนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งต้นกำเนิดของบ่อน้ำแร่ธรรมชาติมากมายหลายบ่อ โด่งดังถึงขนาดผู้คนในอดีตยุคก่อนสงครามโลกพากันหลั่งไหลมารับการรักษาตัวด้วยการใช้น้ำแร่บริสุทธิ์บำบัดมากมายเนืองแน่นทุกๆปี  นอกจากวิชชี่จะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำแร่ธรรมชาติแล้ว เมืองวิชชี่ก็เป็นเมืองที่มีประวัติศาตร์ยาวนานและครั้งหนึ่งก็เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศฝรั่งเศสในช่วงสงครามครั้งที่ 2 ด้วยนะคะ นับว่าเมืองวิชชี่มีประวัติน่าสนใจที่เดียว 



ส่วนการเดินทางมาเมืองวิชชี่ นั้นไม่ยากคะ ถ้าเราขับรถยนต์ส่วนตัวนั้นใช้ถนน auto route หรือทางไฮเวย์จากปารีสมาถึงวิชชี่ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.กว่า หรือถ้าจะเดินทางใช้รถไฟ TGV ก็ไปขึ้นที่สถานนีขนส่ง Gare du Lyon ใช้เวลาประมาณแค่ 3 ชม. กว่าเอง แต่ทริปนี้เราใช้เวลามาเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็เที่ยวทั่วเมืองวิชชี่แล้วนะคะ เพราะที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ค่อนข้างสงบ โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นยุโรเปียน หรือเมริกันมากกว่าที่นิยมแวะมาเที่ยวกัน จะหาหัวดำๆอย่างชะนีแคระน้อยมากเลย

เมืองวิชชี่เคยรุ่งเรื่องมากในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส คล้ายๆว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศของเหล่าขุนนาง ไฮโซเซเลป ที่นี่จึงมีสถาปัตยกรรมมากมายครบถ้วนตามสไตย์คนฝรั่งเศสไม่ว่าจะเป็นโรงละครโอเปร่า คาสิโน รวมถึงบ้านพักตากอากาศ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งวันนี้เราจะเดินชมเก็บภาพรอบเมืองมาให้ท่านผู้อ่านได้ชมกัน  โดยเฉพาะนี้เลยคะบ้านพักตากอากาศของพระเจ้านโปเลียนที่ 3  ซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นบ้านพักตากอากาศของเหล่าเซเลปไปเรียบร้อยแล้วนะคะ




                                    บ้านพักตากอากาศของพระเจ้านโปเลียนที่ 3
เราลองไปเที่ยวย่านจัตรุัสสวนกลางเมืองวิชชี่กันบ้างนะคะ เมื่อสมัยนโปลิเลียนที่ 3 ที่ตรงนี้จะเป็นแหล่งพบประสังสรรค์ของผู้คนในเมือง มีการแสดงละเล่นต่างๆมากมาย ปัจจุบันก็ตามรูปเลยนะคะ อาจจะเป็นยังค่อนข้างเช้าผู้คนเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

มีบริการรถพาชมเที่ยวรอบเมือง
จุดนี้เป็นจุดพบประสังสรรค์ของคนในเมือง


สถานที่ต่อไปที่เราจะพาท่านผู้อ่านไปรุ้จักกันนะคะ Aux source de Vichy des Célestin aux capucins ซึ่งมันก็คือสถานบำบัดรักษาผู้ป่วยด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ โดยผู้ป่วยที่มารักษาที่นี่วิธี่การรักษาก็จะใช้ธรรมชาติบำบัดใช้วิธีการดื่มเฉพาะแค่น้ำแร่เท่านั้น ซึ่งสมัยก่อนเป็นที่นิยมมากขนาดมีผู้ป่วยจากทั่วยุโรปเดินทางมารับการรักษาอย่างเนื่องแน่นทีเดียว ซึ่งเค้ามีส่วนที่เปิดฟรีให้ประชาชนสามารถได้ลองมาดื่มน้ำแร่ และกรอกน้ำแร่กลับบ้านได้ด้วย เดี่ยวเราจะพาไปชมบ่อน้ำแร่ธรรมชาติกันนะคะ ถ้าใครมาวิชชี่ไม่ได้ลองมาดูบ่อน้ำแร่ หรือได้ลองชิมน้ำแร่กันแล้ว เค้าว่ามาไม่ถึงวิชชี่กันนะคะ



สถานบำบัดรักษาผู้ป่วยด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ

บ่อน้ำแร่มากมากมายหลายบ่อให้เราสามารถทดลองดืมกันได้ฟรี

ตย.ชื่อบ่อน้ำแร่ ซึ่งจะมีมากมายหลายชื่อ 

บ่อน้ำแร่
ซึ่งหลังจากที่ชะนีแคระได้ลองชิมแวว แต่ละบ่อรสชาติของน้ำก็จะไม่เหมือนกันนะคะ ถามผู้รู้เค้าบอกการรักษาบำบัดด้วยน้ำแร่ที่นี่จะขึ้นอยุ่กับโรคที่เจ็บป่วยการดื่มก็จะดื่มจากบ่อแต่ละบ่อในปริมาณที่ไม่เท่ากัน ที่สำคัญเค้าบอกมาว่าการดื่มน้ำแร่จากวิชชี่จะทำให้สุขภาพดี อายุยืนนาน โดยเฉพาะสาวๆ จะไม่แก่ หรือแก่ช้า พอชะนีแคระได้ยินเท่านั้นกรอกขนกลับบ้านไปหลายขวด แต่ขอบอกรสชาติมันฝึดเฝือนมากคะ เพราะมันมีกลิ่นกำมะถันเจอปน แต่อย่างว่าเพื่อความงามชะนีแคระยอมคะ มิน่าที่เมืองวิชชี่นี่ถึงมีแต่ผู้เถ้าผู้แก่กันทั้งเมือง ชาวเมืองเค้าเชื่อกันจริงๆนะคะว่าคนที่ดื่มน้ำแร่บ่อยๆจะทำให้อายุยืนนาน


จากที่เคยเกริ่นไปตอนต้นว่าวิชชี่นั้นเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  นั้นก่อนอื่นต้องเล่าประวัติศาสตร์คร่าวๆก่อนว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากฝ่ายนาซีเยอรมันได้มีชัยชนะเหนือฝรั่งเศสแล้ว ฝรั่งเศสเลยถูกบีบให้ต้องเข้าร่วมเป็นฝ่ายอักษะด้วยร่วมรบกับเยอรมัน และเยอรมันก็ได้แบ่งการปกครองฝรั่งเศสออกเป็น 2 ส่วนคือ ฝรั่งเศสส่วนบนถูกปกครองโดยรัฐบาลนาซีเยอรมัน ส่วนฝรั่งเศสตอนใต้ตั้งแต่วิชชี่ลงมาถึงใต้สุดประเทศ รัฐบาลฝรั่งเศสปกครองซึ่งผู้ปครองมีอำนาจสูงสุดขณะนั้นของฝรั่งเศสคือจอมพลเปตา ซึ่งเค้าได้เลือกที่จะตั้งศูนย์ราชการเขตการปกคองที่เมืองวิชชี่ ซึ่งสถานที่ต่อไปที่เราจะพาท่านผู้อ่านไปรุ้จักกันก็คือCapital de l'Etat Français ซึ่งครั้งหนึ่งที่นี่เปตาเคยใช้เป็นที่ว่าราชการเขตปกครองฝรั่งเศสขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็ได้กลายเป็นโรงแรม 5 ดาวไปแล้ว

ที่นี่เคยเป็นที่ว่าการาชการของเปตาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
 ในสมัยนั้นรัฐบาลภายใต้เปตาปกครองฝรั่งเศสได้ทำสนธิสัญญากับเยอรมันว่าจะส่งชาวยิวมากกว่า 10000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กมากกว่า 6500 คนถูกส่งไปค้ายกักกันยิวที่เอาชวิตช์ ประเทศโปแลนด์ แน่นอนที่สุด เด็กเล็กๆเหล่านี้ตายทันทีที่ไปถึงค่ายกักกัน ถูกฆ่าตายด้วยการรมแก็ส ซึ่งน้อยมากที่จะรอดชีวิตกลับมา และสี่งนี้เองที่เป็นเหมือนตราบาปของชาวฝรั่งเศส ดังนั้นชาวฝรั่งเศสจึงได้ทำป้ายเป็นอนุสรณ์ถึงความโหดร้ายของสงครามและก็เตือนใจให้เห็นถึงความผิดพลาดต่อนโยบายทางการเมืองของฝรั่งเศสขณะนั้น และแน่นอนที่สุดนายพลเปตา ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตภายในคุกหลังจากสงครามโลกได้จบลง
อนุเสาวรีย์ที่ได้เล่าถึงเหตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นความโหดร้ายของสงคราม
หลังจากที่ได้เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ก็รุ้สึกหดหู่ดังนั้นเบรคอารมณ์ท่านผุ้อ่านด้วยการพาไปช็อปปิ้งในเมืองวิชชีกันดีกว่านะคะ จะว่าไปแววเมืองวิชชี่ถือว่าเป็นสวรรค์ของเหล่านักช็อปเลยก็ว่าได้ เพราะปกติร้านรวงต่างๆในฝรั่งเศสจะต้องปิดทำการในวันอาทิตย์ แต่ที่เมืองวิชชี่ได้รับการยกเว้นจากกฏหมายพิเศษคะ ขาช็อปอย่างเราเลยสบายสามารถช็อปปิ้งในวันอาทิตย์ได้คะที่นี่  ส่วนร้านรวงต่างๆก็มีหลากหลายแบรนด์มากมาย มีให้นักท่องเที่ยวได้ช็อปกระเป๋าฉีกไปตามๆกันคะ ในระหว่างเดินช็อปปิงอยุ่ก็นี่เลยคะพบคุณพี่กะคุณลุงฝรั่งเศสแต่งตัวย้อนยุคของชาวเมืองวิชชี่ในสมัยก่อนมาแจกโบรชัวร้านอาหารคะ ชะนีแคระเลยเก็บภาพมาฝากกันคะได้อารมณ์ย้อนยุคดี



ถนนแห่งการช็อปปิ้ง
แต่งกายย้อนยุค
ถ้าถามว่าของฝากขึ้นหน้าขึ้นตาหรือสินค้าโอท็อปของชาววิชชี่คืออะไรก็นี่เลยคะ ลูกอมวิชชี่ ลูกอมสีขาวๆ แก้เจ็บคอ มาแล้วห้ามพลาดซื้อกลับเป็นของขวัญของฝากกันนะคะ

ลุกอมวิชชี
สุดท้ายนี้เมืองวิชชี่ เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก อบอุ่น ผู้คนเป็นกันเอง โดยเฉพาะที่นี่มีผู้เฒ่าผุ้แก่เยอะมากนับว่าเป็นเมืองที่เงียบสงบแถมมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจทีเดียว และเป็นอีกเมืองที่เป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนสไตย์ครอบครัวที่ไม่อยากไปที่ซ้ำซากจำเจ เพียงแค่วันเดียวเราก็สามารถเที่ยวได้ทั่วเมืองแล้ว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น