หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การทักทายของแต่ละประเทศ

การทักทายของแต่ละประเทศ

      เมื่อเราพบผู้อื่น มารยาทพื้นฐานที่ต้องแสดงคือการทักทาย การทักทายของชนชาติต่างๆล้วนมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน และเพราะวัฒนธรรมในแต่ละประเทศแตกต่างกัน วิธีทักทายจึงแตกต่างด้วย ดังนั้นหากไม่เข้าใจวิธีทักทายของกัน ก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้
เริ่มจาก
อิตาลี กอดพร้อมตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ 

เซเนกัล ชนเผ่าโวลอฟ ค้อมตัวลงแล้วนำหลังมือของผู้อาวุโสมาแตะหน้าผากตัวเอง 

แทนซาเนีย ห้ามมองหน้าอีกฝ่ายและต้องคุกเข่าลงพร้อมตบมือขณะทักทายผู้อาวุโส 

เคนยา บ้วนน้ำลายตัวเองบนฝ่ามือของอีกฝ่าย เพื่ออวยพรให้โชคดี 

อินเดีย พนมมือและโค้งตัวเล็กน้อยเวลาทักทายผู้อาวุโสหรือแขก 

นิวซีแลนด์ ชนเผ่าเมารี เอาจมูกแตะกันและครึงเล็กน้อย 

ทิเบต ดึงหูทั้งสองข้างของตัวเองไว้พร้อมแลบลิ้น 

อาร์เจนตินา หอมแก้มกันและทำเสียง"จุ๊บ"เวลาทักทาย 

บราซิล ชนพื้อเมืองในบราซิลจะใช้ใบหน้าและส่วนอกสัมผัสกันพร้อมหอมแก้ม 

สหรัฐอเมริกา หอมแก้มกันเมื่อทักทายเพื่อนหรือคนในครอบครัว 

อะแลสกา ชนเผ่าเอศกิโมเอาจมูกแตะกันและคลึงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพและการต้อนรับ 

เกาหลี ผู้อ่อนวัยจะคุกเข่าและก้มศีรษะคำนับผู้อาวุโส 

อินเดียเหนือ ชาวลาดัก ทักทายโดยยกมือขวาขึ้น 

อิรัก  ทักทายหญิงสาวที่ใส่ผ้าคลุมหน้าโดยใช่ฝ่ามือทาบที่หน้าอกตัวเอง   สำหรับหญิงสาวที่ไม่ใส่ผ้าคลุมหน้าใช่การจับมือ 

วิธีทักทายที่นิยมใช้มากที่สุดก็คือการจับมือ



ฝรั่งเศส จะพูดว่า "บงชูร์" แนบแก้มกับแก้มของอีกฝ่ายและทำเสียงจุ๊บ 

อินเดียเหนือ จะพูดว่า "ชู-เลย" ชาวลาดักไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จะยกมือขวาขึ้นสูง 

อินเดีย จะพูดว่า"นะมัสเต" พนมมือสองข้างและโค้งตัวเล็กน้อย 

ชนเผ่าฮาวาย จะพูดว่า "อะโลฮา" ชูนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อยส่ายไปมาในการทักทายเพื่อน 

สหรัฐอเมริกา จะพูดว่า"ไฮ" ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนใช่การจับมือ 

ชนเผ่าเอสกิโม จะพูดว่า"อัลละคุต" เอาจมูกแตะกันและคลึงเล็กน้อย 

จีน จะพูดว่า"หนีห่าวมา" จับมือพร้อมส่งเสียงทักทาย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น