หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เกาะบิกินี

ในมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ ไกลห่างออกไปจากชายฝั่งฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออก หรือว่าง่ายๆ อยู่กึ่งกลางทางระหว่างฮาวายกับฟิลิปปินส์ หรือว่าง่ายๆ คือทางใต้ลงมาจากหมู่เกาะ มิดเวย์ ที่เคยมียุทธการเรืออันลือลั่นระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ หมู่เกาะมาร์แชลล์ (Marshall Islands) หรือ สาธารณรัฐมาร์แชลล์ ตั้งอยู่บริเวณนั้น-เหนือเส้นศูนย์สูตร หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ตั้งโครงการหนึ่งขึ้นมา เรียกว่า ปฏิบัติการครอสโรดส์ (Operation Crossroads) วัตถุประสงค์เพื่อทดลองระเบิดนิวเคลียร์ยังดินแดนโพ้นทะเลในแปซิฟิกที่อยู่ใต้อาณัติของพวกเขา เกาะแห่งหนึ่งได้รับเกียรตินั้น ชื่อพิกินนี่ (Pikinni) ในภาษามาร์แชลล์ และบิกินี (Bikini) ในภาษาอังกฤษ อันหมายถึงเกาะที่มั่งคั่งด้วยมะพร้าว

การทดลองเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 1946 ลูกแรกในการทดสอบชื่อ เอเบิล (Able) โดยจุดระเบิดเหนือกลางอากาศก่อนถึงผิวน้ำราว 160 เมตร และอีกครั้งในอีกสามสัปดาห์ถัดมา กับเจ้า เบเกอร์ (Baker) ที่จุดระเบิดใต้ผิวน้ำลงไป 27 เมตร ในการทดสอบมีการนำเรือจำนวนมากมาลอยลำทั้งเรือที่ปลดระวางแล้วของสหรัฐฯ เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ และเรือที่ยึดได้จากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่ามีเรือญี่ปุ่นหลายต่อหลายลำที่ยึดได้ในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก มีการนำรถถังและยุทโธปกรณ์อื่นไปจัดวางไว้บนเรือ รวมถึงเครื่องบินรบ สัตว์จำนวนหนึ่งก็เข้าไปอยู่ในขบวนการการทดลองนี้ด้วย เพื่อศึกษาผลกระทบที่มีต่อสิ่งมีชีวิต

ผลการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกจมเรือได้ 6 ลำ และครั้งที่ 2 จมเรือได้ 8 ลำ ภาพนิ่งและวีดิโอบันทึกไว้ ทั้งในมุมสูงและจากตัวเกาะบิกินีอันเป็นที่ตั้งของหอสังเกตการณ์ ที่ห่างออกไปราว 6 กิโลเมตร กลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งเป็นดอกเห็ดยักษ์บนอากาศ อากาศบริเวณที่จุดระเบิดมีอุณหภูมิถึง 55,000 องศาเซลเซียส

ในปี 1949 โซเวียตมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นด้านนิวเคลียร์ ตามมาด้วยสงครามเกาหลีในปีต่อมา สงครามเย็นเริ่มก่อตัว สหรัฐฯต้องการโชว์การพัฒนาอาวุธ และจากประสบการณ์การรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขามองว่านิวเคลียร์คือคำตอบ มหาสมุทรแปซิฟิกคือยุทธศาสตร์สำคัญ หมู่เกาะมาร์แชลล์เป็นตัวเลือกแรก เกิดสารพิษปนเปื้อนทั้งในน้ำและผืนดินของเกาะใกล้เคียง แม้จะมีการยืนยันว่าได้รับการปกป้องรังสีเป็นอย่างดี จากการศึกษาพบว่าอายุขัยของผู้ที่เข้าร่วมชมปฏิบัติการลดลง 3 เดือน สารกัมมันตรังสีกระจายในวงกว้างกว่าที่สหรัฐฯจะคาดคิด นักเคมีที่เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการพลังงานนิวเคลียร์ได้กล่าวถึงเบเกอร์หรือการทดลองในครั้งที่สองว่า “มันคือจุดเริ่มต้นความวิบัติของโลก”

ทดลองทิ้งระเบิดปรมาณู (1)




เกาะบิกินีแต่เดิมมีประชากรอยู่เกือบหนึ่งพันคน มีการอพยพเคลื่อนย้ายผู้คนไปยังเกาะรอนเกอร์ค (Rongerik) ที่ห่างออกไปสองร้อยกิโลเมตร และทุกคนเชื่อว่าตนเองจะได้กลับบ้านในไม่ช้า ปรากฏว่าพวกเขาไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้ อาหารขาดแคลน ดินลงพืชไม่งอกงาม ไม่มีแหล่งน้ำจืดพอเพียง มีกระแสกดดันจากประเทศต่างๆ แต่สหรัฐฯไม่สนใจ จนกระทั่ง ดร. ลีโอนาร์ด เมสัน (Leonard Mason) จากมหาวิทยาลัยฮาวายไปที่นั่น และได้บอกกับชาวโลกว่า พวกคนบนเกาะกำลังจะอดตาย ปลาเหลือน้อยและที่ได้ก็มีสารพิษ หากว่าใครกินเข้าไปจะตายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ห่างไกลออกไปราวสามร้อยกิโลเมตร ที่เกาะรอนเกแลป (Rongelap) ซึ่งคาดว่าน่าจะปลอดภัย สามวันให้หลังการทดสอบนิวเคลียร์ พื้นดินถูกฉาบเคลือบด้วยเถ้าละอองหนากว่า 2 เซนติเมตร ทุกคนมีอาการแสบคันผิวหนัง อาเจียน ปวดท้องรุนแรง คอ แขน ขา บวม พวกเขาถูกเคลื่อนย้ายออกโดยเร็ว
แต่ก่อนหน้านั้น 90 นาทีหลังการทดลอง เรือประมงญี่ปุ่นพบกับเถ้าถ่านเหล่านั้นก่อนแล้ว

ในท้องทะเลแปซิฟิก ทั้งหมดกลายเป็นคนป่วยทันทีที่เถ้าเหล่านั้นปลิวมาถูกร่างกายและหายใจรับมันเข้าไป 11 คนเสียชีวิตหลังจากมีอาการป่วยไม่นานหลังขึ้นฝั่ง 1 มีนาคม ค.ศ. 1954 กองทัพสหรัฐฯทดสอบประสิทธิภาพนิวเคลียร์อีกครั้ง และเป็นครั้งสุดท้าย มีชื่อว่า คาสเซิล บราโว (Castle Bravo) ซึ่งสามารถมองเห็นได้ออกไปไกลถึง 400 กิโลเมตร เพียงสิบนาทีหลังจากการระเบิด ควันดอกเห็ดพุ่งสูงถึง 40 กิโลเมตร และกว้างถึง 100 กิโลเมตร กัมมันตภาพรังสีได้กระจายเป็นวงกว้างกว่า 11,000 ตารางกิโลเมตร

ปี 1968 ปธน. ลินดอน บี.จอห์นสัน ได้รับคำแนะจากเหล่านักวิทยาศาสตร์ว่าที่เกาะบิกินีปลอดภัยแล้ว คนที่อพยพมาอยู่บนเกาะสามารถกลับไปยังถิ่นฐานได้เริ่มมีการย้ายกลับไปที่เกาะบิกินีในปี 1970 ทว่าภายหลังผลการทดสอบอีกครั้งพบว่ายังมีสารพิษปนเปื้อนทั้งในแหล่งน้ำจืดที่มีน้อยนิด และหน้าดิน ผลกระทบหลังการทดลอง ปะการัง แหล่งที่ปลาชุกชุมเสียหายพินาศไปเกือบ 70% นกประจำถิ่นสาบสูญ หลังผ่านไปนานนับสิบปี ปูตามหาดและมะพร้าวบนเกาะยังพบว่ามีสารเคมีปนเปื้อน จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไป


สัตว์กว่า 40 สายพันธุ์สาบสูญสิ้นเชิง และเกือบ 30 สายพันธุ์นั้นหาได้เฉพาะแถบนี้!

ก่อนหน้าที่บ้านเกิดพวกเขาจะถูกใช้เป็นสถานทดลองอาวุธ ชาวเกาะประเทศมาร์แชลล์มีอาชีพหลักสองประเภท หนึ่ง-ส่งออกมะพร้าวแห้ง สอง-จับปลา พวกเขาอยู่กันอย่างสงบสุข เป็นนักหาปลาตัวฉกาจ สายเบ็ดจากกาบมะพร้าวและตัวเบ็ดจากเปลือกหอย ปลูกและกินพืชพื้นเมือง พวกเขาจัดว่าเป็นนักเดินเรือที่หาตัวจับยากอีกกลุ่มหนึ่งของโลกไม่ต่างจากพวกโพลินีเซีย จากเกาะสู่เกาะไปเรื่อยๆ จนเชื่อว่าพวกเขาน่าจะมาถึงดินแดนมาเลเซียในปัจจุบัน ดินแดนโพ้นทะเลเหล่านี้ชาวตะวันตกไม่รู้จักพวกเขา จนคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อสเปนผ่านมา มองเป็นแค่จุดจอดเรือและเติมเสบียง และบรรยายว่า คนเหล่านี้ดูป่าเถื่อน ผู้ชายไม่มีอาภรณ์ท่อนบน ท่อนล่างนุ่งใบเตยแห้งสวมไว้คล้ายกระโปรง และหญิงทั้งเด็กและชราเดินเปลือยกาย นมไกวไปมาชวนเวียนหัว บ้านเรือนปลูกสร้างอย่างง่ายคล้ายบังกะโลในตะวันตก

ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 ศาสนาคริสต์เริ่มมาปักหลัก พอถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 หมู่เกาะมาร์แชลล์รวมถึงเกาะต่างๆ ในภูมิภาคไมโครเนียก็ตกเป็นของเยอรมนีด้วยกองทัพเรืออูที่ทรงประสิทธิภาพก่อนจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ และโลกของผู้ชนะแบ่งสรรจัดการปกครองกันใหม่ ญี่ปุ่นรับดูแลในชื่อว่า อาณานิคมแห่งหมู่เกาะแปซิฟิก จนเมื่อเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นใช้มันเพื่อเป็นจุดสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวทางทะเลของอเมริกา


เกาะบิกินีมีประวัติศาสตร์มายาวนาน เคยมีตำแหน่ง lrojj ปกครอง ถ้าจะเรียกว่าหัวหน้าเผ่าก็ดูน้อยเกินไป ออกจะคล้ายๆ ราชา-ราชินีมากกว่า แต่หลังจากที่หมู่เกาะมาร์แชลล์ได้รับเอกราชแยกตัวออกมา ความสำคัญแบบดั้งเดิมก็เริ่มหมดไป ประเทศมาร์แชลล์มีการเลือกตั้งแบบรัฐสภา และมีประธานาธิบดี

ปัจจุบัน เกาะบิกินีแทบจะไร้ร้างผู้คนอยู่อาศัย ผืนดินยังมีสารกัมมันตรังสีอยู่มากแต่ทว่าสภาพเกาะและปะการังเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น อันเนื่องจากที่ไม่ค่อยมีคนไปยุ่มย่ามนี่เอง มีทริปการไปดำน้ำดูเศษซากของเรือที่จมลงก้นทะเล และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้ เมื่อครั้งสหรัฐฯ มาใช้พื้นที่เพื่อการทดลองสร้างรายได้ให้กับหมู่เกาะมาร์แชลล์ ผู้อพยพหรือทายาทอยู่ได้ด้วยเงินจากกองทุนที่อเมริกาจัดตั้งขึ้น โดยจะได้รับคนละ 550 ดอลลาร์ต่อปี

ทว่าปรากฏการณ์สืบเนื่องจากการทดลองมิจบลงเพียงเท่านั้น มันยังชี้นำไปสู่ชุดว่ายน้ำบิกินีวิศวกรยานยนต์นาม หลุยส์ รีอาร์ด (Louis Reard) ที่ดำเนินงานชุดชั้นในต่อจากมารดา ร่วมมือกับจากส์ ไฮม์ (Jacques Heim) ดีไซเนอร์ในกรุงปารีส คิดรูปแบบใหม่ของชุดว่ายน้ำโดยแบ่งเป็นสองชิ้น โดยเปิดตัวครั้งแรกในนาม อาโตเม (Atome) โดยมีแนวคิดมาจากการทดลองของรัฐบาลสหรัฐฯ ในแปซิฟิก เพื่อสื่อถึงพลังอันร้อนแรงของผู้สวมใส่ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อชุด Bikini หลุยส์เชื่อว่าการเปิดเผยเนื้อหนังจะสร้างปฏิกิริยาตื่นตัว-เร่าร้อนต่อผู้พบเห็น ในเบื้องต้นนั้นพวกเขาไม่สามารถหานางแบบมาสวมใส่ได้ จนนักเต้นเปลือยถังแตกจากคลับดังของปารีสมารับงาน เจ้าชุดว่ายน้ำที่เล็กที่สุดในโลกจึงได้อวดโฉมแก่ชาวปารีส

1949 หนังสือพิมพ์ ลอสแอนเจลิส ไทมส์ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของมิสอเมริกาคนล่าสุดที่ไปเยือนฝรั่งเศส เธอกล่าวว่า “ถ้าสาวๆ ปารีสต้องการสวมใส่มันก็ตามสบาย แต่ดิฉันยังไม่เปลี่ยนใจ”

นอกจากเป็นจุดกำเนิดชื่อชุดว่ายน้ำแล้ว ณ ที่แห่งนี้เองที่เป็นที่ปรากฏกายครั้งแรกของก็อตซิลลา คนว่างงานในวงการฮอลลีวูดจำนวนหนึ่งเคยวิเคราะห์ว่า ที่ญี่ปุ่นเลือกสถานที่แห่งนี้ให้เป็นจุดกำเนิดนั้นมีนัยสำคัญ เกาะบิกินีกับการทดลองนิวเคลียร์ บิกินีกับจุดเริ่มต้นความตึงเครียดด้านอาวุธ บิกินีให้กำเนิดความเลวร้าย/อธรรม และแน่นอนญี่ปุ่นจะหมายความเป็นอื่นไม่ได้นอกจากสหรัฐอเมริกาผู้เป็นตัวชั่วร้ายนั่นเอง

เกาะบิกินี เกาะมฤตยู เกาะนรก หรือเกาะต้นกำเนิดอธรรม...จากเรื่องราว มันก็น่าอยู่หรอก.

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Unbroken

  



      ผลงานการกำกับและอำนวยการสร้างโดย แองเจลินา โจลี ซึ่งเป็นอีพิคดรามาที่ติดตามชีวิตอันเหลือเชื่อของหลุยส์ "ลูอี้" แซมเพอรินี ฮีโรสงครามและโอลิมปิก ที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของคุณ แองเจลินา โจลี เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ลงมือกำกับและอำนวยการสร้าง Unbroken หรือ คนแกร่งหัวใจไม่ยอมแพ้ อีพิคดรามาที่ติดตามชีวิตอันเหลือเชื่อของหลุยส์ "ลูอี้" แซมเพอรินี (แจ็ค โอ’ ดอนเนลล์) ฮีโรสงครามโลกและโอลิมปิก ผู้ที่รอดชีวิตจากการลอยอยู่บนแพนาน 47 วัน ร่วมกับลูกเรืออีกสองคน หลังจากเหตุเครื่องบินตกในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขากลับถูกกองทัพเรือญี่ปุ่นจับตัวได้และถูกส่งไปเป็นนักโทษในค่ายกักกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากหนังสือเบสต์เซลเลอร์ของลอร่า ฮิลเลนแบรนด์ (ผู้เขียน Seabiscuit : An American Legend) โดยเล่าเรื่องราวชีวิตอันเหลือเชื่อของแซมเพอรินี ในรูปแบบของภาพยนตร์
เกร็ดจากภาพยนตร์
          ภาพยนตร์นำแสดงโดย แจ็ค โอ' คอนเนลล์, ดอห์มนัลล์ กลีสัน, ฟินน์ วิททร็อค, การ์เร็ตต์ เฮดลันด์ และจอห์น มากาโร รวมถึงอเล็กซ์ รัสเซล ซึ่งรับบทพีท พี่ชายของแซมเพอรินี นอกจากนี้ ยังได้นักร้องและนักแสดงชาวญี่ปุ่น มิยาวิ มารับบทผู้คุมนักโทษขาโหดที่นักโทษรู้จักกันในชื่อ "เดอะ เบิร์ด" โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยโจลี ร่วมด้วยแมทธิว แบร์ (City by the Sea), เออร์วิน สตอฟฟ์ (The Day the Earth Stood Still) และเคลย์ตัน ทาวน์เซนด์ (This Is 40) และยังได้ทีมงานเบื้องหลังมากความสามารถอย่าง ผู้กำกับภาพ โรเจอร์ ดีคินส์ (Skyfall) ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิง 10 รางวัลออสการ์ มาร่วมงานด้วย โจเอลและอีธาน โคเอน (No Country for Old Men) เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ใหม่ จากบทดราฟท์เริ่มแรกที่เขียนโดยวิลเลียม นิโคลสัน (Les Miserables) และริชาร์ด ลากราวีนิส (ซีรีส์เอชบีโอเรื่อง Behind the Candelabra)










วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

The Little Prince 2015

ในปี 2015 นี้  พาราเมาท์พิคเจอร์ส กำลังจะนำความงดงามแห่งโลกหนังสือกลับมาโลดแล่นในรูปแบบ 3D อีกครั้ง สำหรับ “เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince)” ที่ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมสุดคลาสสิคขวัญใจผู้อ่านทั่วโลก ผลงานการเขียนและวาดภาพประกอบโดยชาวฝรั่งเศส “อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี”  และได้รับการแปลไปแล้วทั่วโลกมากกว่า 190 ภาษา  หลังจากประกาศสร้างมาตั้งแต่ปี 2010 โดยผู้กำกับ มาร์ค ออสบอร์น  ( Mark Osborne)  ที่เคยฝากผลงานอนิเมชั่นสุดน่ารักและเรียกเสียงฮาจากคนทั่วโลกมาแล้วใน Kung Fu Panda 

-The-Little-Prince-(9) - Copy

เจ้าชายน้อย (The Little Prince) เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดัดแปลงมากจาก Le Petit Princeวรรณกรรมสุดคลาสสิค ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1943  บอกเล่าเรื่องราวของนักบินที่เครื่องบินตกกลางทะเลทรายซาฮารา และได้พบเด็กชายที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าชายจากฟากฟ้าที่ตกลงบนโลก หลังจากเดินทางมากับอุกาบาตจากต่างดวงดาว เรื่องราวความเหลือเชื่อของสิ่งมีชีวิตประหลาดมากมายที่ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝันสำหรับนักบิน ถูกถ่ายทอดบอกเล่าโดยของเด็กชายตัวน้อยขณะที่นักบินกำลังซ่อมเครื่องบิน และเอาชีวิตรอดจากความโหดร้ายในทะเลทราย แต่แล้วเขากลับพบว่าเรื่องราวความไร้เดียงที่เด็กชายผู้อ้างว่าเป็นเจ้าชายตัวน้อยคนนี้เล่ามา ล้วนแล้วแต่แฝงปรัชญาที่ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเขาต้องขบคิดกับแง่มุมบางอย่างที่เคยลืมเลือนไปในวัยเยาว์ และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่า เพราะอะไร? หนังสือสำหรับเด็กเล่มนี้จึงกลายเป็นหนังสือที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็กทั่วโลกควรอ่านมากที่สุด

-The-Little-Prince-(5) - Copy-The-Little-Prince-(4) - Copy

โดยในภาพยนตร์อนิเมชั่นเจ้าชายน้อยฉบับดัดแปลงที่กำลังจะมาถึงในปี 2015 นี้  จะเป็นการเล่าเรื่องราวโดยอ้างถึงเนื้อหาจากหนังสือเจ้าชายน้อยคู่ขนานกันไปกับเนื้อเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผูกมิตรของเด็กหญิงผู้คร่ำเคร่งกับการเรียนกับชายชราข้างบ้านผ่านหนังสือเจ้าชายน้อย ซึ่งความน่าสนใจของของผลงงานอนิเมชั่นเรื่องนี้ ก็คือ การนำเสนอเทคนิคอนิเมชั่น 2 แบบ มาใช้ในการเรียงร้อยเรื่องราวให้เคล้ากลิ่นไอแห่งเสน่ห์ความเป็นยุโรปมากขึ้น ได้แก่ การนำ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก 3D มาถ่ายทอดเรื่องราวในภาคของเด็กหญิงและชายชรา ขณะเดียวกันกับที่ใช้เทคนิค Model Animation หรือ Stop Motion เล่าเรื่องราวส่วนของเนื้อหาในหนังสือเจ้าชายน้อย ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกแบบเด็กๆ ที่ผู้คุ้นเคยคล้ายคลึงกับในหนังสือ

-The-Little-Prince-(8) - Copy

-The-Little-Prince-(16) - Copy
-The-Little-Prince-(14) - Copy-The-Little-Prince-(11) - Copy-The-Little-Prince-(18) - Copy-The-Little-Prince-(6) - Copy-The-Little-Prince-(17) - Copy

ในตัวอย่างแรกที่ถูกปล่อยออกมาในฉบับภาษาฝรั่งเศสนี้ ได้นักแสดงชาวฝรั่งเศสมากหน้าหลายได้มาให้เสียง และหนึ่งในนั้นคือ มาริงยง โกติญาร์ กับ วินเซนต์ แคสเซล นักแสดงชื่อดังชาวฝรั่งเศส พร้อมออกฉายในฝรั่งเศสตุลาคมปีหน้า .
  
-The-Little-Prince-(13) - Copy-The-Little-Prince-(15) - Copy-The-Little-Prince-(19)
และนี่คือรายชื่อนักแสดงผู้พากย์เสียงในฉบับภาษาอังกฤษ…

เจ้าชายน้อย (The Little Prince) พากย์เสียงโดย Riley Osborne
เด็กผู้หญิง (The Little Girl) พากย์เสียงโดย Mackenzie Foy
ครู (The Teacher) พากย์เสียงโดย Paul Giamatti
นักบิน (The Aviator) พากย์เสียงโดย Jeff Bridges
พระราชา (The King) พากย์เสียงโดย Bud Cort
ดอกกุหลาบ (The Rose) พากย์เสียงโดย Marion Cotillard
งู (The Snake ) พากย์เสียงโดย Benicio Del Toro
นักธุรกิจ (The Businessman) พากย์เสียงโดย Albert Brooks


Lavander ดอกไม้สารพัดประโยชน์


   
                   Lavander ดอกไม้สารพัดประโยชน์ Lavander เป็นสกุลของพืชดอก ประกอบไปด้วยพืช 39 ชนิด ในวงศ์มินต์ (Lamiaceae) เป็นพื้นเมืองในยุคโบราณซึ่งถูกค้นพบจากเคปเวิร์ดและหมู่เกาะคานารี ทางตอนใต้ของยุโรปข้ามไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกา, เมดิเตอร์เรเนียน, เอเชียตะวันตกเฉียงใต้จรดไปอินเดียตะวันออกเฉียงใต้
คำว่า “ลาเวนเดอร์” ในภาษาอังกฤษ เดิมถูกเข้าใจว่ามาจากคำภาษาฝรั่งเศสเก่าที่ว่า ” Lavander ” แต่ท้ายที่สุดคำว่าลาเวนเดอร์นั้นกลับมาจากภาษาละติน “lavare” (ชำระล้าง) ซึ่งอาจหมายถึงประโยชน์ของมันในการชำระล้างร่างกายและ ลาเวนเดอร์ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางกับสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหย และเชื่อว่าลาเวนเดอร์สามารถบรรเทาแมลงกัด, แผลไหม้ และอาการปวดหัวได้
 
นอกจากนี้ ช่อลาเวนเดอร์ยังสามารถขับไล่แมลง ดอกและเมล็ดลาเวนเดอร์สามารถช่วยให้การนอนหลับนั้นผ่อนคลาย  การชงยอดอ่อนของลาเวนเดอร์ลงในถ้วยน้ำร้อนก็สามารถช่วยให้นอนหลับสบายลาเวนเดอร์สามารถนำมาทำน้ำสลัด น้ำหวานลาเวนเดอร์ใช้ในขนมหวาน
 
ในศตวรรษที่ 21 นี้ ลาเวนเดอร์นั้นเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมมากมาย จากประโยชน์ในเรื่องของกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมันซึ่งช่วยให้ผ่อนคลาย หลากหลายอุตสาหกรรมใช้ลาเวนเดอร์ในผลิตภัณฑ์ของพวกเขา แต่อุตสหกรรมที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดเห็นจะเป็นอุตสาหกรรมน้ำหอมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น สบู่, ครีม เป็นต้น
 

13 หมู่เกาะที่มีรูปร่างแปลก ตอนที่ 2

       13 หมู่เกาะที่มีรูปร่างแปลกบนโลก ความงดงามเหล่านี้ธรรมชาติได้สร้างมาให้มนุษย์ได้ชื่นชมความงดงามกัน หลังจากที่ได้นำเสนอ ไป 6 เกาะที่มีรูปร่างประหลาดในตอนนี้จะพาไปชมอีก 7 เกาะที่เหลือ
Stingray เกาะนี้ประเทศเดนมาร์กเรียกกันว่า Æbelø ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางเหนือ เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประเทศเดนมาร์ก ลักษณะของมันเป็นสามเหลี่ยมมีรูปร่างคล้ายปลากระเบน
 
Lungs เกาะแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับปอดที่มีหลอดลม เกาะแห่งนี้เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาบนเกาะแห่งนี้มีทั้งสนามเทนนิส และสระว่ายน้ำ
 
Venetian mask เกาะแห่งนี้มีชื่อว่า Huvahendhoo เป็นเกาะชื่อดังของมัลดีฟส์ ลักษณะของเกาะคล้ายกับหน้ากากแฟนซีที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับ
 
Carrot  เกาะเล็กๆ แห่งรี้มีรูปร่างคล้ายกับแครอท ภาพเกาะแครอทนี้ถ่ายได้โดยช่างภาพที่มีชื่อว่า Badruddeen เขาได้ถ่ายขณะที่นั่งเครื่องบินออกจากสนามบินนานาชาติมาเล ในมัลดีฟส์
 
Tree เกาะนี้เป็นหนึ่งในหมู่เกาะซิลลี่ ชายฝั่งมณฑลคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ ลักษณะเป็นพุ่มไม้ขนาดใหญ่ มีตั้งแต่ลำต้น ใบ ราก ไปจนถึงดินที่ปกคลุมรากอยู่
 
Sperm เกาะรูปร่างคล้ายสเปิร์ม ไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าเกาะแห่งนี้ ชื่อว่าอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน ภาพนี้ถูกถ่ายจากเครื่องบินที่บินระหว่าง ญี่ปุ่น ไปยุโรป
 
Heart เกาะหัวใจ เป็นเกาะสำหรับคนที่มีความรัก เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ โคเอเชีย บนโลกนี้มีสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างมาไม่เพียงกี่อย่างที่จะมีรูปร่างเป็นรูปหัวใน เกาะแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในปี 2009 โดย Google Earth
 

13 หมู่เกาะที่มีรูปร่างแปลก ตอนที่ 1

          13 หมู่เกาะที่มีรูปร่างแปลกบนโลก ความงดงามเหล่านี้ธรรมชาติได้สร้างมาให้มนุษย์ได้ชื่นชมความงดงามกัน  มนุษย์เราก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้เพราะความสวยงามที่มีอยู่นี้ธรรมชาติไม่ได้สร้างมาให้ชื่นชมกันบ่อยๆ มาดู 6 เกาะแรกกันก่อนว่าจะมีเกาะที่หน้าตาแปลกขนาดไหน

Dolphin เกาะที่มีรูปร่างคล้ายโลมา เกาะนี้ตั้งอยู่ ทางทิศเหนือของเกาะฟลอเรส, อินโดนีเซีย ลักษณะจะเหมือนกับโลมากำลังว่ายน้ำเล่นอยู่
 
Photo: Michael Thirnbeck, used with permission
Smiley เกาะหน้ากำลังยิ้ม เป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะที่ตั้งเป็นรูปยิ้มนี้มีชื่อว่า Manukan  Mamutik และ  Sulug ทั้ง 3 เกาะตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย

Photo: thienzieyung
Boomerang เกาะบูมเมอแรง เกาะนี้ตั้งอยู่ใยทะเลจีนใต้ หากอยากชมเกาะนี้ละก็ต้องนั่งเที่ยวบิน จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ไปยัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ประมาณ 45 นาทีหลังจากออกจากมะนิลา
 
Photo: E. F. Catipay Guieb, Philippines
Seahorse เกาะคล้ายม้าน้ำ ถ่ายได้โดยกล้องจากองค์การนาซ่า ในปี 2002 เกาะนี้มีชื่อว่า Isabela เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะกาลาปาโกส เกาะนี้เกินจากการปะทุของภูเขาไฟในเวลาหลายล้านปีที่ผ่านมา
 
Photo: nasa
Eye เกาะที่มีรูปร่างคล้ายกับดวงตา เป็นเกาะๆเล็กที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะมัลดิมัลดีฟส์ มันเป็นอีกแนวปะการังที่สวยงาม
 
Photo: Mohamed Shareef
Cartoon figure ภาพที่ถ่ายได้โดยองค์การนาซ่า ที่เกาะ Sunda ประเทศอินโดนีเซีย ภาพนี้ถ้ามองดีๆจะคล้ายคนที่อ้าปากอยู่ เขาตั้งให้เป็นเกาะตัวการ์ตูน

สถาปัตยกรรมที่แปลกประหลาดแห่งยุคโซเวียต

    Forum Hotel เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่แปลกประหลาดแห่งยุคโซเวียต โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรากุฟ หนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศโปแลนด์ โรงแรมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1978 ได้รับการออกแบบโดย Janusz Ingarden สถาปนิกชาวโปแลนด์
ต้องใช้เวลาการสร้างราว 10 ปี ณ ตอนนั้นมันเป็นอาคารที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในในกรากุฟ ถือเป็นโรงแรมที่โดดเด่นในยุค 80 ที่ไม่มีใครในกรากุฟไม่รู้จัก ภายในมีห้องพักทั้งหมด 278 ห้อง บริเวณด้านล่างจะเป็นลานจอดรถ มีสระว่ายน้ำ, ซาวน่า, ห้องอาบแดด, ห้องออกกำลังกาย, สนามเทนนิส, สนามกอล์ฟขนาดเล็ก


นอกจากนี้อาคารหลังนี้ยังเป็นสถานที่ติดป้ายประกาศที่ยาวที่สุดในประเทศโปแลนด์