การพับนกกระเรียนให้ครบ 1,000 ตัวเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนประเทศญี่ปุ่นจะยอมแพ้สงครามสหรัฐ ได้มาทิ้งระบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิจนราบคาบเป็นผลทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าซาดาโกะ ซาซากิ รอดชีวิตมาจากระเบิดนิวเครียร์ที่เมืองฮิโรซิมามาได้ หลังจากนั้นต่อมาเธอได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดนิวเคลียร์ที่ตกค้างอยู่ ทำให้เธอต้องป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวจึงต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล วันหนึ่งเพื่อนของเธอมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล ได้เล่าตำนานเรื่องนกกระเรียนให้เธอฟังว่าแต่ก่อนชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่านกกระเรียนเป็นนกศักดิ์สิทธิ์
เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข ความหวัง ความโชคดี และสุขภาพอายุที่ยืนยาว หากใครพับนกกระเรียนได้ครบ 1,000 ตัวสำเร็จ จะเป็นผู้โชคดีและมีอายุยืนยาว เพื่อนของเธอจึงแนะนำให้เธอพับนกกระเรียนเพื่อจะได้หายป่วย ระหว่างที่เธอพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซาดาโกะก็เริ่มพับนกกระเรียนไปเรื่อยๆจนกระทั่งอาการดีขึ้นๆ และสามารถกลับบ้านได้
เธอจึงมีกำลังใจที่จะพับนกกระเรียนต่อให้ครบ แต่แล้วอาการของเธอก็กลับมาทรุดหนักและทำให้เธอเสียชีวิต ซึ่งในขณะนั้นเธอสามารถพับนกได้แล้ว 644 ตัวเพื่อนๆต่างพากันเสียใจในการจากไปของเธอ จึงได้ช่วยกันพับนกต่อให้ครบ 1,000 ตัว แล้วใส่ไปในโลงศพของซาดาโกะ
หลังจากนั้นต่อมาเรื่องของเธอก็ได้เล่าต่อๆกันไป พร้อมกับความเชื่อเรื่องการพับนกกระเรียน 1,000 ตัวก็แพร่หลายและเป็นที่รู้จักไปทั่วจนกระทั่งปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น