หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

Abraham Lincoln





ประวัติอับราฮัม ลินคอล์น

               อับราฮัม ลินคอล์น  ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา จนจบชีวิตลงวันที่  4 มีนาคม ค.ศ. 1861 หลังจากการถูก จอห์น วิลค์ส บูธ ยิงจนเสียชีวิต      

               อับราฮัม ลินคอล์น เกิดในกระท่อมเล็กๆ ที่รัฐเคนตักกี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1809 ชีวิตวัยเด็กลำบากมาก เพราะพ่อแม่ยากจน สิ่งที่ผลักดันนิสัยติดตัวของเขาคือรักการอ่าน อ่านหนังสือได้ทุกที่ เขายอมเดินเป็นระยะทางไกลๆ เพื่อไปขอยืมหนังสืออ่านเพียงแค่เล่มเดียว เขาเดินทางเป็นกิโลๆเพื่อจะได้นำหนังสือกลับบ้านมาอ่าน 

                พออายุ 9 ขวบ แม่เขาก็เสียชีวิต พ่อแต่งงานใหม่โชคดีที่ลินคอล์นเข้ากับแม่ใหม่ได้ดี  อายุ 19 ลินคอล์นล่องเรือแจวจากแม่น้ำโอไฮโอไปที่รัฐนิวออร์ลีน ที่นั่นเขาได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของพวกทาสที่ถูกขายทอดตลาดเป็นครั้งแรก ทำให้หนุ่มน้อยลินคอล์นเกิดความคิดที่จะปลดปล่อยทาส เขาจึงเริ่มสนใจการเป็นทนายความหลังจากนันเป็นต้นมา  

                 ลินคอล์นชอบพบปะช่วยเหลือผู้คน เริ่มมีชื่อเสียงจากความขยันขันแข็งและความซื่อสัตย์  อับราฮัม ลินคอล์นเริ่มหันมาสนใจเรื่องการเมืองเขาลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาหลายครั้ง แต่ก็กินแห้วมาตลอด จนหลายๆคนเรียกเขาว่าอับราฮัม ลินคอล์น ผู้พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีก 

  
                

                     เขาใช้ความพยายามอยู่หลายปี โดยเขาไม่ล้มเลิกความพยายามของเขา จนในปี 1860 ลินคอล์นตัดสินใจลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และได้รับเลือกในวันที่ 4 มีนาคม 1861 เส้นทางสายผู้นำไม่แจ่มใสนักเนื่องจากนโยบายปลดปล่อยทาสของลินคอล์นไม่ได้ รับการสนับสนุนจากบรรดารัฐต่างๆ ทางตอนใต้ของอเมริกา ซึ่งภายหลังระอุกลายเป็นสงครามกลางเมือง ในเดือนเมษายน ปี 1861 มีการสู้รบกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารจากสังกัดส่วนกลางและทหารในรัฐทางใต้ 


                    รัฐต่างๆ ทางตอนใต้ของอเมริกา เป็นเกษตรกรพวกเขาเลยต้องใช้แรงงานมาก แล้วแรงงานที่ถูกแสนถูกในตอนนั้นก็เป็นคนดำที่จับมาเป็นทาสจากแอฟริกาและหลายๆประเทศ พวกเขาจึงบอกว่า เราต้องการแรงงานทาส  ทาสเป็นสิ่งที่จำเป็น และก็เป็นแค่สมบัติชิ้นนึงของนายจ้างเท่านั้น้อง ฝ่ายเหนือก็บอกว่า การค้าทาสนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร จึงจะไม่ให้มีทาส  เพราะเป็นการริดรอนสิทธิ เสรีภาพของมนุษย์ 

                   ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง แล้วไม่ยอมกันสงครามก็เกิดขึ้นจนได้ รัฐทั้ง 11 รัฐทางใต้ก็ประกาศแยกตัวเป็นอิสระทันที ประกาศเป็นศัตรูกับรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนรัฐทางใต้ก็รวมตัวกันอย่างหลวมๆ ประกาศจัดตั้งประเทศ สมาพันธรัฐอเมริกาซะงั้น 


                     แล้วก็เริ่มต่อสู้กัน สงครามนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 600,000 คน ทำให้เกิดความเสียหายและความยุ่งยากหลายประการ แต่ก็มีผลดีที่ต่อมามีการเลิกทาส และรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไว้ได้ ในที่สุดฝ่ายของลินคอล์น (ฝ่ายเหนือ) ก็ได้รับชัยชนะและมีประกาศปลดปล่อยทาสในปี1863เป็นอันจบเรื่องจบราว

 



                    แต่เดี๋ยวครับถึงสงครามจะจบแต่คนไม่จบ 14 เมษายน 1865 ลินคอล์นถูกลอบสังหารขณะชมละครที่โรงละครฟอร์ด โดย จอห์น วิลค์ส บูธ และเสียชีวิตในเช้าวันถัดมา ศพของลินคอล์นฝังอยู่ที่สปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐ เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จนชื่อว่าเป็นบิดาแห่งระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ เพราะมีบทบาทในการรักษาไว้ซึ่งสหภาพของอเมริกา และเป็นผู้ประกาศในสุนทรพจน์ที่ว่า "รัฐบาลประชาธิปไตย คือรัฐบาลของประชาชน เพื่อประชาชน และโดยประชาชน"


คำคมของอับราฮัม ลินคอห์น

จงทำลายศัตรูของท่านด้วยการทำให้เขาเป็นมิตร

ข้าพเจ้าเป็นคนเดินช้า แต่ไม่เคยเดินถอยหลัง

การเงียบแล้วปล่อยให้ใครๆคิดว่าเราโง่ ดีกว่าเปิดปากแล้วข้อสงสัยกระจ่าง

ถ้าข้าพเจ้ามีเวลา 6 ชั่วโมงในการตัดต้นไม้ จะเอา 4 ชั่วโมงไว้ ลับขวาน

เมื่อแน่ใจว่ายืนอยู่ในที่ๆถูกต้อง ยืนให้มั่น



Lincoln Memorial


      คือ รูปปั้นท่านั่งขนาดใหญ่ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อับราฮัม ลินคอร์น แกะสลักโดยแดเนียล เชสเตอร์ เฟรนช์ (ค.ศ. 1850-1931) และพี่น้อง Piccirilli รูปปั้นถูกตั้งอยู่ในอนุสรณ์สถานลินคอร์น (Lincoln Memorial) ซึ่งสร้างระหว่าง ค.ศ. 1914-1922 ที่เนชั่นแนลมอลหรือสวนสาธารณะใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา อนุสาวรีย์ถูกเปิดเมื่อ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1922 ในด้านรูปแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกจัดอยู่ในสถาปัตยกรรมวิจิตรศิลป์ และธรรมเนียมอเมริกันแบบเรอแนซ็องส์



ภาพยนตร์ Lincoln

            ในช่วงเวลาสี่เดือนสุดท้ายในชีวิตและการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของอับราฮัม ลินคอล์น คุณค่าที่แท้จริงของชายผู้นี้ ทั้งความเร่าร้อนและความเป็นมนุษย์ของเขา จะปรากฏชัดในสงครามที่บ่งบอกตัวตนของเขา สงครามที่หมายรวมถึงการวางแผนการไปสู่หนทางข้างหน้าสำหรับประเทศที่แตกแยกเป็นฝักฝ่าย ท่ามกลางอุปสรรคที่ถาโถมและความกดดันที่หนักหนาสาหัสจากสาธารณชนและเรื่องส่วนตัว
           Lincoln ลินคอล์น โดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก เป็นการล้วงลึกเข้าไปในช่วงเวลาที่เปิดเผยและเสี่ยงอันตรายที่สุดของผู้นำแห่งอเมริกันชนผู้นี้ ในช่วงเวลาที่เงามืดของการค้าทาสได้หายไป และประเทศที่แตกแยกจากสงครามจะต้องถูกรวมเป็นหนึ่งเดียว
           ภาพยนตร์ดรามาที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมนุษย์เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวขณะที่ลินคอล์นกำลังมุ่งมั่นกับการยุติสงครามกลางเมืองที่เลวร้าย ซึ่งไม่ใช่ด้วยการจบสงครามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรุกคืบเพื่อผ่านบทบัญญัติเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญข้อที่ 13 ซึ่งจะเป็นการเลิกทาสอย่างถาวร อันจะเป็นวีรกรรมแห่งประเทศชาติอย่างแท้จริงด้วย ในการนี้ เขาจำต้องใช้ทักษะ ความกล้าหาญ และศีลธรรมอันกล้าแกร่งทั้งหมดเท่าที่มี ซึ่งทั้งหมดนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานในที่สุด เขาจะต้องรับมือกับผลของการกระทำของเขาที่มีต่อโลกใบนี้และคนที่เขารัก หากแต่ผลตอบแทนของมันก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอสำหรับลินคอล์น นั่นคือการกระตุ้นให้ชาวอเมริกัน และผู้คัดค้านเขาในรัฐบาล เปลี่ยนแปลงวิถีปฏิบัติของตัวเอง และมีเป้าหมายที่สูงส่งขึ้น เพื่อผลประโยชน์ของมนุษยชาติทั้งปวง
           ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเนรมิตให้มีชีวิตโลดแล่นจากบทภาพยนตร์หลายมิติโดยโทนี คุชเนอร์ เจ้าของรางวัลพูลิทเซอร์ การเล่าเรื่องความเป็นมนุษย์ที่เด่นชัดจากสปีลเบิร์กและการแสดงจากแดเนียล เดย์-ลูอิส ผู้นำทีมนักแสดงผู้ประสบความสำเร็จ ได้เชื้อเชิญผู้ชมให้เข้าสู่หัวใจและจิตวิญญาณของความสำเร็จครั้งสุดท้ายของลินคอล์น ลินคอล์นผู้ปรากฏกายต่อหน้าเราเป็นชายที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งในตัว เขาเป็นทั้งคนตลกและเคร่งขรึม เป็นนักเล่าเรื่องขำขันและเป็นผู้ครองอำนาจที่ดุดัน เป็นผู้บัญชาการเจ้าเล่ห์และเป็นพ่อผู้เปราะบาง แต่ในโมงยามที่มืดมิดที่สุดของประเทศชาติ ในตอนที่ยุคสมัยเรียกร้องสิ่งที่ดีที่สุดจากทุกคน เขาก็ได้ดึงเอาคุณสมบัติที่ทรงพลังและยั่งยืนจากส่วนลึกภายในตัวเองออกมาใช้
           แคทาลิสท์ อัลลายแอนซ์, ทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ และดรีมเวิร์คส์ พิคเจอร์ส ร่วมกับพาร์ทิซิแพนท์ มีเดีย ภูมิใจนำเสนอ "Lincoln" ภาพยนตร์ที่กำกับโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก จากบทภาพยนตร์ที่เขียนบทโดยโทนี คุชเนอร์ โดยเค้าโครงส่วนหนึ่งนำมาจากหนังสือเรื่อง "Team of Rivals: The Political Genius of Lincoln" โดย ดอริส เคิร์นส์ กู๊ดวิน 

  
lincoln



วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

Deepsea Challenge 3D

การกลับมาสร้างความฮือฮาครั้งใหม่ให้โลกภาพยนตร์นับจาก Avatar ของผู้กำกับพันล้านฯ และ เจ้าของรางวัลออสการ์จาก Titanic “เจมส์ คาเมรอน” ในผลงานภาพยนตร์ผจญภัย-สารคดี 3 มิติ ที่จะนำ ผู้ชมเดินทางเสี่ยงชีวิตไปพร้อมกับเขา ฝ่าขีดจำกัดของท้องทะเลลึก สู่ดินแดนที่มนุษยชาติยังไม่เคยดำดิ่งไป ถึง ณ จุดที่ถือว่าลึกที่สุดของโลกกับ “Deepsea Challenge 3D” (ดีพซี ชาเลนจ์ ทรีดี)
Deepsea Challenge 3D (ดีพซี ชาเลนจ์ ทรีดี) เป็นภาพยนตร์ผจญภัย-สารคดีฟอร์มยักษ์ที่ เจมส์ คาเมรอน ร่วมกับ National Geographic (เนชันแนล จีโอกราฟฟิก) สร้างปฏิบัติการอันน่าเหลือเชื่อเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ให้ เป็นจริงในการดำดิ่งสู่ใต้มหาสมุทรที่ความลึกมากกว่า 36,000 ฟุต บริเวณมหาสมุทรมาเรียน่า ใกล้กับเกาะกวมพน่อมกับยานดำน้ำที่พัฒนาขึ้นเพื่อปฏิบัติการครั้งนี้โดยเฉพาะตามลำพัง พร้อมกับต้องฝ่าอันตรายนานัปการที่เกิดขึ้นจากความท้าทายของธรรมชาติ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสุดระทึก “Deepsea Challenge 3D (ดีพซี ชาเลนจ์ ทรีดี) คือภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจะสร้างทั้งแรงบันดาลใจและความประหลาดใจให้แก่ทุกคนที่ได้ชม แล้วคุณจะพบว่า โลกใบนี้ยังมีสถานที่อัศจรรย์อีกมากมายที่ยังรอให้มนุษย์ไปค้นพบ” เจมส์ คาเมรอน กล่าว

Deepsea Challenge 3D